Saturday, April 23, 2016

รีวิวเสริมจมูกกับหมอกริช สุขุมวิท 22

รีวิวเสริมจมูกกับหมอกริช สุขุมวิท 22

          เนื่องจากคุณน้องสาวได้ตัดสินใจไปทำศัลยกรรมเสริมจมูกมาเมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา นางจึงอยากจะให้นำรีวิวนี้ออกมาเผยแพร่ให้แก่สาวๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่สนใจหรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นะคะ
          เห็นหลายๆ ท่านนิยมบินไปทำศัลยกรรมกันที่ประเทศเกาหลี จริงๆ ก็แล้วแต่ศรัทธาและเงินในคลังของแต่ละท่าน ฮาาาา.. แต่อยากบอกว่า ศัลยแพทย์ชาวไทยที่เก่งๆ นั้น ยังมีอยู่อีกมากไม่แพ้เกาหลี และ (เดาเองว่า) น่าจะรู้ถึงโครงสร้างหน้าของเราคนไทยดีกว่าแพทย์ชาวต่างชาติ การผ่าตัดเสริมจมูกของน้องเราผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ แค่เพียง 2 อาทิตย์ นางก็สามารถกลับมาใช้จมูกได้อย่างปกติแล้วล่ะคร่าาา เอาเป็นว่ามาดูรูปก่อนทำกันเลยดีกว่าค่ะ เป็นการพลีชีพโชว์หน้าสดแบบโนเมคอัพ โนแอ๊บใดๆ แบบแฟนมาเห็น มีบอกเลิกอ่ะค่ะ สงสารนาง แต่เพื่อทุกสาวๆ ทุกคน 55555
          ภาพด้านบนนี้เป็นหนังหน้าแบบไม่ผ่าน Photoshop ด้านซ้ายคือแบบแต่งหน้า ด้านขวาคือหน้าสดมันแพร็บ (เอ๊ะ...บอกทำไม ดูปุ๊บรู้ปั๊บ ฮาาาา ^A^") สังเกตว่า จมูกนางจะเล็ก ไม่มีดั้ง แต่ดูแล้วก็ไม่น่าเกลียดอะไร ตามความเห็นของท่านพ่อท่านแม่ จึงไม่ค่อยสนับสนุนให้ทำเท่าไหร่ แต่นางทนไม่ได้กับดั้งแหมบๆ แบบนี้อีกต่อไปเลย ลุย! เริ่มจากการหาข้อมูลมากมายจากอินเทอร์เน็ตและเว็บพันทิป นางกล่าวว่าหาข้อมูลมาเป็นปีๆ เพราะต้องการความมั่นใจสุดๆ ว่าไม่มีรีวิวหลุดมาว่า หมอคนนั้น คนนี้ไม่ดีอะไรยังไง แล้วนางก็ตัดมาเหลือ 2 ช้อยส์ ระหว่างหมอกริช สุขุมวิท 22 กับหมอสำรวย จรัญฯ 35 และแล้วนางก็ได้ตัดสินใจไปทำกับหมอกริช เนื่องจากชอบแบบธรรมชาติ เห็นหลายๆ คนบอกหมอกริชทำได้ธรรมชาติมากๆ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย นึกว่าโด่งมาแต่เกิด 55555
          เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็เดินทางไปสำรวจคลินิกก่อนซิว่าไว้ใจได้รึเปล่าน้อ พอไปถึงนี่ไม่ได้พบหมอเลยนะคร้า ไม่เห็นแม้แต่เงาคุณหมอเลยคร่า เจอแต่คุณพนักงานต้อนรับ ให้ลงนัดเอาไว้ว่าจะทำวันไหน ซึ่งได้คิวเร็วมากกกก ลงวันนี้ทำอาทิตย์หน้า (o-O) (ตอนแรกมโนว่าอาจจะได้คิวซักอีกเดือนหรือสองเดือน) เร็วจนคิดในใจว่า 'เฮ้ย...ที่นี่ดีจริงเปล่าแฟร้ ทำไมได้คิวค่อดเร็ว' อ่อ...ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 20,000 บาทนะคะ จ่ายมัดจำก่อน 2,000 บาทค่ะ
          พอถึงวันนัดทำ ก็ได้พบคุณหมอกริชครั้งแรกคร่าาา ซึ้งน้ำตาแทบไหลพราก T-T คุณหมอไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ดูๆ หน้าแล้วแค่ถามว่า 'จะเอาโ่ด่งๆ เลยมั้ย' นางก็ตอบกลับทันควันว่า 'ขอแบบธรรมชาติค่ะ ขอหยดน้ำด้วยนะคะ' หมอก็แนะนำมาแบบดับฝันว่า 'ถ้าทำหยดน้ำ จมูกอาจจะทะลุเพราะเนื้อปลายจมูกบาง' นางก็ได้แต่นั่งกระพริบตาปริบๆ แล้วหมอก็บอก ให้ทำเลยค่ะ ช่วงบทสนทนาจนถึงขึ้นเขียงนี้เร็วมาก นี่คือปรึกษาแล้วใช่ม้ายยย <(o-O)> อ่อ... แล้วก็ซีลีโคนที่ใช้เป็นแบบนิ่มนะคะ
          การผ่าตัดใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที เสียไปแล้วสองหมื่น 5555 ตอนผ่าตัดฉีดยาชาค่ะ ไม่รู้สึกอะไร
เสร็จแล้วคร่า
          ผ่าตัดเสร็จก็ชิวๆ เพราะยาชายังออกฤทธิ์ ผ่าเสร็จ แถมฟรี! ผ้าปิดแผลเป็นแถบๆ แบบภาพด้านบน ไม่เจ็บ ไม่บวม เพราะเพิ่งทำเสร็จ รอดูพรุ่งนี้สิคะ ซี๊ดเลยล่ะคร่าาา 55555 ผ่าตัดเสร็จคุณพนักงานจะให้ใบแนะนำการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดนะคะ ที่สำคัญคือ ควรนอนหัวสูงค่ะ ถ้าไม่ทำตามจะเป็นเช่นไรน่ะหรือ ฮึๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวมีตัวอย่างให้ชมคร่า
          และภาพบนนี้เป็นผลงานของวันที่ 2 ค่ะ ตอนกลางคืน นางเผลอนอนหัวต่ำค่ะ ตื่นมาบ่นปวด สังเกตจากภาพทางขวา จะเป็นรอยช้ำๆ ทะลุออกมานอกผ้าก็อต จากภาพอาจจะไม่ค่อยเห็น แต่ตัวจริงคือ หน้าบวมอลึ่งฉึ่งค่ะ เหมือนเลือดมันไหลไปรวมกันที่แผลผ่าตัด 55555 จากนั้นนางก็เงยหน้าตลอดเลยคร่า 
          วันที่ 3 ความบวมและช้ำน้อยลง แต่ก็ยังเห็นอยู่ เห็นแล้วก็แอบรู้สึกเจ็บแทนนางเล็กๆ นางก็ทำกิจกรรมอะไรไปตามปกติ ไม่ได้ระวังอะไรมากมาย แถมยังเอากรรไกรไปตัดไหมที่โผล่ออกมาจากรูจมูกอีกต่างหาก =. .= ไม่พอเอาไม้ปั่นหูไปแหย่ซับเลือดที่แห้งกรังในรู ทั้งๆ ที่ทางคลินิกกำชับแท้ๆ ว่า อย่าไปยุ่งอะไรกับแผล ถ้าอยากล้างแผลหรืออะไรให้ไปที่คลินิก นางนี่น้า...
          วันที่ 4 แล้วคร่า นางตัดสินใจเด็ดขาด ดึงเอาผ้าปิดแผลออก ผ่าง! ตอนดึงออกมาแอบหวั่นใจ ว่าหน้าตาจะเหมือนพระพิฆเนศแบบที่เคยมีคนมารีวิวในพันทิปรึเปล่า แต่อาจจะเพราะแผลยังบวมอยู่ คงต้องรอดูอีกซักพัก เหอๆๆๆ 
          วันที่ 5 จ้า แบบหน้าข้างๆ จะเห็นว่า ความบวมมันน้อยลงจริง อะไรจริง นางบอกว่ายังรู้สึกตึงๆ แต่ก็ไม่เจ็บอะไร ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกปลอมอยู่ในจมูก และที่สำคัญยังเอาไม้ปั่นหูแยงรูจมูกทำความสะอาดเองเช่นเคย =. .=
          7 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก 5555 หน้าตาดูผุดผ่องขึ้น รอยช้ำจางไปมาก หน้าตาเริ่มกลับมาเหมือนคนอย่างไม่น่าเชื่อ กดฟอร์เวิร์ดเร็วๆ และแล้วก็ผ่านไป 2 อาทิตย์
          หมอนัดให้นางไปตัดไหมวันที่ 16 เมษา แต่ทว่านางมีบินจ้า ไปไม่ได้ เลยต้องเลื่อนนัด ที่น่าตกใจคือ เหมือนจะเคยได้ยินว่า คนที่เพิ่งผ่าตัดมา เค้าจะไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่อง เพราะกลัวว่าแผลจะปริเนื่องจากความกดอากาศบนความสุงระดับที่บินนั้นจะต่างกับบนภาคพื้นมาก แต่นางไม่มายด์จ้า และกลับมาอย่างปลอดภัย แสดงว่าทฤษฎีนั้นไม่จริงน่ะสิ =_=
ภาพซ้ายคือก่อนศัลฯ ดูสิ นางก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร ภาพขวาคือทำแล้ว
          แหม่...ดูจากภาพ Before กับ After แล้ว เหมือนจะไม่มีความต่าง 5555 เพราะนางน่ารักดีอยู่ก่อนแล้ว นางกลับมาเล่าหลังบินว่า มีแต่คนทักนางว่าไปทำอะไรมา หน้าตาดูแบ๊วขึ้น แสดงว่า จริงๆ แล้วมันมีความเปลี่ยนแปลงสินะ =. .=
          การรีวิวก็จบลงแต่เพียงเท่านี้คร่า ใครมีข้อสงสัยอันใดก็สามารถเม้นท์ถามกันได้จ้า ยินดีให้คำปรึกษาคร่า 

Sunday, August 23, 2015

ยุโรปตะวันออก 18 วัน 17 คืน: รีวิวที่พัก ณ เมืองต่างๆ

           เนื่องจากว่าเราก็เป็นคนที่อ่านกระทู้ท่องเที่ยวต่างๆ มาเยอะอยู่เหมือนกัน (((A^) และกระทู้ที่เราชื่นชอบก็จะเป็นพวกรีวิวที่พักหรือการเดินทางแบบเฉพาะเจาะจงไปเบย ไม่เอามาปะปนกันเพราะมันทำให้คนใจโลเลแบบเราทำแผนยากกกส์ ถถถถถ... และจะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราควรจะตามไปพักดีรึเปล่าหน้อ...หรือเดินทางแบบนี้ดีรึเปล่า เราเลยรวบรวมเอาที่พักที่เราไปพักมาทั้ง 6 เมือง (ตัดบ้านแควนออกไป 5555) เชิญทุกท่านอ่านได้ตามศรัทธา มีอะไรผิดพลาดเชิญเม้นท์ได้ตามอัธยาศัยนะฮ๊าฟฟฟ
          เงื่อนไขในการจองที่พักของเรามีอยู่ไม่มีข้อ ซึ่งเป็นไม่กีข้อที่เล่นเอา (= - =")
          - ต้องไม่ใช่ Hostel หรือ Guest House เพราะพ่อแม่เราจะไม่ยอมนอนรวมกันใคร ฮา...
          - ต้องเป็นห้องน้ำส่วนตัวเท่านั้น (Private Bathroom)
          - ต้องมีอาหารเช้า เพราะเราขี้เกียจไปหาเอาดาบหน้า กินๆ เสร็จจะได้เที่ยวเลย ลั้ลลา
          - คืนละไม่เกิน 1,500 บาทต่อคน
          - ต้องอยู่ในเขตที่เดินถึงรถเมล์ (Bus) รถราง (Tram) หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน (Subway) แบบไม่ไกล เพราะแม่เราเดินไกลไม่ได้ 55555

ที่พักในมิวนิค (Accommodation in Munich)
          ที่มิวนิค หลังจากที่เรางมหาอยู่นาน (มากก)... เพราะที่พักแต่ละที่มันแพงเหลือเกิ๊น... .ในนนที่สุดเราก็จองได้ที่ HOTEL EDER บนถนน ZweigstraBe อยู่ใกล้ Munich Central Station เดินไม่ถึง 3 นาที ตอนเดินมาถึงหน้าโรงแรม พ่อแม่เราถามเราว่า...หาโรงแรมที่ดีกว่านี้ไม่มีเหรอลูก...เราแบบ <(((A=)> ป๊าม้าคะ ไปดูข้างในก่อนเถิด ข้างนอกเป็นโพรง แต่ข้างในอาจจะสุกใสนะเออ...ถถถถถ 
นี่คือหน้าโรงแรม ทีทำให้ป๊าม้าถึงกับผงะ ถถถถ..
          มาถึงราคาบ้างคร่าาา ราคาห้อง Quad Room with Breakfast อยู่ที่ 137 EUR ต่อคืน (ตกคนละ 34.25 EUR/คืน) ไม่ถูกไม่แพง มีอาหารเช้า แถมใกล้สถานีทั้งรถไฟและรถราง ไปไหนมาไหนสะดวกสุด d(((-<) 
ภายในห้อง...เละ...ไม่ทันถ่ายทุกคนก็ละเลงซะเละ (= - =")
          ความกว้างของห้อง สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าแคบ แต่เราคิดว่ามันโอเคเลย เพราะปกติเราก็ไม่ได้อยู่ในห้องทั้งวันอยู่แบ๊ว ส่วนความสะอาดโดยรวม เราให้ 5/5 เพราะเราเห็นคุณป้าแม่บ้านมารอทำความสะอาดทุกวัน เปลี่ยนผ้าปูให้ทุกวัน ชื่นชมค่าาา...
ห้องน้ำคร่าาา แคบไปนิด แต่สะอาดค่ะ
          ห้องน้ำแคบไปนิด แต่ความสะอาดก็ 5/5 เหมือนกัน Cabin อาบน้ำปิดสนิทไม่มีน้ำรั่วเจิ่งมาด้านนอกแม้แต่นิดเดียว เราปลื้ม เพราะเราเป็นคนเข้าห้องน้ำยากส์... ถ้าไม่สะอาดเรายอมไม่อาบเลยอ่ะ
เคาน์เตอร์อาหาร ก็เน้นพวกขนมปังต่างๆ มีนมกับน้ำผมไม้สดๆ
การตกแต่งคือแบบดูย้อนยุคๆ อบอุ่น ยังคิดถึงอยู่เลยค่าา
Cold Cut มีหลายอย่างค่ะ เติมเรื่อยๆ
          อาหารเช้า เริ่มทานได้ตั้งแต่ 7 โมงเช้าค่ะ ความหลากหลายของอาหาร, ความสดสะอาด, การตกแต่งห้องอาหาร, ความสะอาดของอุปกรณ์ต่างๆ และการบริการ เราก็ให้ 5/5 ค่ะ ไม่รู้จะติอะไร คือดีงามทุกอย่างอ่าาาา (((A^) ป๊าม้านี่แบบชื่นชมมม ต่างกับตอนเห็นแค่หน้าโรงแรม 55555
          ป๊าเราแบบว่า ตอน Check out บอกเจ้าของว่า Your hotel is sooo goood เดี๋ยวจะช่วยแนะนำคนอื่นให้มาพัก 55555 เจ้าของนี่ยิ้มหน้าบาน ไปพักกันนะคร้าาา...แนะนำๆ
          อ่อๆๆ เกือบลืม โรงแรมนี้แค่ 2 ดาวนะคะ มี 5 ชั้นแต่ไม่มีลิฟต์ เพราะฉะนั้นพอจองแล้ว ต้องเมลล์ไปบอกทางโรงแรมว่า เราต้องการชั้น 1 เท่านั้น ถ้าลากกระเป๋าไปถึงชั้น 5 ตายแน่ๆ คร่าา


ที่พักในซาลบูรก์ (Accommodation in Salzburg)
          โรงแรมในซาลบูรก์ เราก็งมหาอยู่นานเหมือนกันค่ะ แต่ไม่นานเท่ามิวนิค เพราะราคาก็ดร็อปลงมาจากมิวนิคหน่อยนึง ถถถถ...o(_ _o) สรุปเราจองได้ที่ GOLDENES THEATER HOTEL SALZBURG ค่ะ อยู่บนถนน Schallmooser ไม่ได้ใกล้สถานีหลักของซาลบูรก์ แต่ป้ายรถเมล์อยู่หน้าโรงแรม เหอๆๆๆ ลงรถเมล์ปุ๊บ เดินมาอีกไม่กี่ก้าวก็ถึง สะดวกอ่อออ
หน้าโรงแรม คือรูปกากมาก ถถถถ...
          ราคาห้อง Quad Room with Breakfast อยู่ที่ 105 EUR ต่อคืน (ตกคนละ 26.25 EUR/คืน) ห้องที่ได้เป็นแบบ Adjoining Rooms ค่ะ เพราะฉะนั้นห้องจะกว้างใหญ่ไพศาลมากกกก คือเข้าไปตกใจแบบว่า เฮ้ย...ใหญ่ไปมั้ย (o-O) วางกระเป๋าเดินทางใบโตๆ ได้เกิน 10 ใบ เพราะฉะนั้นใครสัมภาระเยอะ แนะนำให้มาพักที่นี่ 555555
เราได้แบบนี้ 2 ห้อง มีประตูเชื่อมกัน (o-O)
          ความกว้าง, ความสะอาดและการบริการ 10/5 ...5555 คือแบบ exceed expectation เจงๆ อ่ะโรงแรมนี้ ส่วนห้องน้ำนี่ก็กว้างเหลือเกิ๊น ทั้งกว้างทั้งสะอาด ไม่รู้จะเอาอะไรมาติ เฮ้อ...
กว้างดีค่ะ ลงไปนอนเกลือกกลิ้งได้ ฮา...
บรรยากาศห้องอาหาร..ดีเลิศ
กินไรเชิญตักคร่าาา..
Tower ขนมปัง เชิญหนีบใส่จาน
ชา กาแฟมีพร้อม ลุย..
          อาหารเช้า ทั้งความหลากหลาย, สดสะอาดและบริการ เราก็ให้ 10/5 แบบว่าดีเลิศศศศ คือเราก็อ่าน feedback จากใน Tripadvisor เกี่ยวกับโรงแรมนี้นะคะ (คือเราอ่านทุกโรงแรมแหละก่อนจอง 5555) บางคนบอกว่าเก่า ไม่สะอาดเลย เราก็แอบแบบว่านอยด์อ่ะ ถถถถถ.... แต่พอมาถึงจริงๆ คือมันแบบไม่ใช่อ่ะ ต่างกะ feedback แบบคนละเรื่องเลยคร่าาา

ที่พักในเวียนนา (Accommodation in Vienna)
          โรงแรมในเวียนนา เราก็งมหาอยู่นานมากกกก เพราะราคาก็สูงตามแบบเมืองหลวงอ่ะนะ ถถถถ...o(_ _o) สรุปเราจองได้ที่ URBAN STAY HOTEL COLUMBIA ค่ะ ตั้งแต่เข้า Check in จนวันสุดท้ายจะ Check out เราถึงได้เจอเจ้าของกับคนที่ดูแล Apartment ที่ให้เช่าพักคร่าาา คูณณณผู้ชมมม 55555
          เอาเป็นว่ามาที่ราคาห้องก่อนไปเรื่องอื่น ราคาห้อง Grand Family Room with Breakfast อยู่ที่ 112 EUR ต่อคืน (ตกคนละ 28 EUR/คืน) ห้องกว้างพอประมาณ ไม่อึดอัด สะอาดและตกแต่งได้น่ารักมากๆ
หน้าที่พักคร่าาา มีป้ายอยู่...หาไม่ยาก
ห้องพักคร่า..มืดไปนิดส์
อีกมุมหนึ่งของห้อง
          สาธยายก่อนว่าทำไม๊เราไม่ได้เจอใครเลยในวัน Check in จนวันสุดท้าย อันนี้เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ที่จะเข้าพักนะคะ ต้องท่องไว้ ฮา... ต้องบอกว่าก่อนว่าที่พักที่เวียนนา เราจองจากเว็บเค้าโดยตรงค่ะที่ http://www.columbia.at/ อ่านเยอรมันไม่ออกไม่เป็นไรค่ะ ใช้ Google Translate ไป 5555 

              ก่อนวันที่เราจะเข้าพักหนึ่งวัน บังเอิญมีเมลล์เด้งดึ๋งเข้ามาในมือถือและโชคดีมั่กๆ ที่เรายังอยู่ในเขตโรงแรมเลยยังมี Wi-Fi อยู่ เราก็เปิดดู ปรากฏว่าเป็นเมลล์จากทาง Hotel Columbia ว่า "พรุ่งนี้ พอเรามาถึงโรงแรมแล้ว ให้กดปุ่มหน้าตึกที่แถบที่ระบุว่า Urban Stay Columbia เพื่อปลดล็อคประตู จากนั้นให้เดินตามทางมา จะพบลิฟต์ทางด้านซ้ายมือ ให้ขึ้นลิฟต์มาชั้น 2 ...จะพบซองจดหมายสีขาววางอยู่บนชั้น ภายในซองจะมี Welcoming Letter กับกุญแจห้อง ระบุเบอร์ห้อง ให้ใช้กุญแจนี้เปิดประตูไปยังล็อบบี้และกุญแจดอกเดียวกันนี้ สามารถเปิดประตูห้องได้ ส่วนห้องอาหารมีป้ายบอกทางอยู่" o(_ _o) ให้ความรู้สึกว่าเรากำลังเล่นเกมส์ RPG เพื่อไขปริศนาอะไรซักอย่าง ถถถถถ...  แต่เราไม่มายด์ค่ะ เราว่าสงบดีมากๆ เราชอบบบ 55555
ทางเดินไปห้องคร่าา
          ห้องน้ำสะอาดและกว้างดีเลยค่ะ ติตรงมันอับไปหน่อย น่าจะวางน้ำยาดับกลิ่นไรงี้ เราจะเข้าทีไรต้องทำใจ แล้วก็กลั้นหายใจก่อนแป๊ปนึงอ่ะ ถถถถถ... อ่อ...แล้วก็ที่นี่เค้ามีนโยบายรักโลกนะคะ เค้าจะเขียนแปะไว้ข้างๆ กระจกอ่างล้างหน้าว่า ถ้าใช้ผ้าเช็ดตัวซ้ำได้ ให้ใช้นะคะ เพราะการเปลี่ยนซักทุกวัน มันเปลืองทรัพยากรน้ำค่ะ แม่เราบ่นอุบ... <(= - =)>
ห้องน้ำคร่าา สะอาดสุดๆ
ห้องอาหารค่ะ บรรยากาศดีมากกก
          อาหารเช้า เค้าระบุไว้ในจดหมายด้วยค่ะว่า เป็นสไลต์เหมือนกินกันในครอบครัว โดยอาหารทั้งหมดคุณย่าของเจ้าของเป็นคนทำ เราว่ามันโอเคมากๆ เลยอ่าาา เราช๊อบชอบ เราให้ 4/5 นะคะ หักไปหนึ่งเพราะว่าไม่ค่อยหลากหลาย แต่คุณเจ้าของเค้าก็อธิบายในจดหมายแล้ว เราก็เข้าใจและรับได้ค่ะ เรื่องความสะอาดโดยรวมนี่ คะแนนเต็มค่ะ ที่นี่เริ่มทานอาหารเช้าได้ตอน 8 โมงนะคะ
          ทุกเช้าที่ตื่นมาทานอาหาร แบบว่าไม่เคยเจอผู้คนเลยคร่า 5555 จะกินไรเชิญตัก คือตามสบายเหมือนอยู่บ้านมากกก พอเราทานกันจะเสร็จถึงมีแขกคนอื่นๆ ทยอยเข้ามาทานอาหารเช้า
เครื่องดื่มพร้อมมม
ขนมปังต่างๆ พร้อมมม
Cold Cut และผลไม้ต่างๆ พร้อมมม
เครื่องชงกาแฟใช้ไงหว่า ถถถถ...
          อ่อ ลืมอีกละ...(((-=) เรื่องการเดินทาง สะดวกค่ะ เดินประมาณ 1 นาทีถึงป้ายรถรางไป Main Station และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ค่ะ 

ที่พักในเชสกี้ คลุมลอฟ (Accommodation in Cesky Krumlov)
          โรงแรมในเชสกี้ คลุมลอฟ ใช้เวลาไม่นานในการหาค่ะ เราสามารถพักได้เกือบทุกที่เพราะเป็นเมืองเล็กๆ จะพักที่ไหนก็เดินเที่ยวด้ายย ราคาก็เป็นมิตรเกือบทุกโรงแรม เราเล็ง PENZION GARDENA ไว้อยู่แล้วค่ะ เพราะ Feedback ดีมาก ไม่น่าทำให้เราผิดหวัง แถมอยู่ใกล้ท่ารถ ไม่ต้องเดินลากกระเป๋าผ่านพื้นหิน เดี๋ยวล้อกระเป๋าพัง ฮา... แต่ที่นี่เต็มเร็ว จองแบบกระชั้นชิดนี่ไม่ได้แน่ๆ ถถถถ...
ด้านนอกสวยมากกกค่ะ
          ราคาห้อง Apartment with Breakfast อยู่ที่ 98 EUR ต่อคืน (ตกคนละ 24.5 EUR/คืน) จริงๆ สามารถหาได้ถูกกว่านี้ แต่เอาความสะดวกสบายค่ะ

            เจ้าของที่นี่เหมือนที่เวียนนาเลยค่ะ คือแกจะไม่ได้อยู่ประจำที่นี่นะคะ แกส่งเมลล์มาบอกเลยว่า ให้มาถึงก่อนกี่โมงๆ ถ้าไม่เจอให้รอก่อน เราไปถึงก็ไม่เจอจริงๆ ฮาเลยคร่าาา เราเลยไปกดกริ่ง ก็มีคุณแม่บ้านเดินมาเปิดประตูให้ คุณแม่บ้านพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เป็นอันเข้าใจว่านั่งรอเถิดจะเกิดผล 555555 ซัก 15 นาที คุณเจ้าของก็กระหืดหระหอบเข้ามาค่ะ เหมือนแกวิ่งมาจากไหนซักแห่งในเมือง 5555 มาถึงแกก็พ่นภาษาอังกฤษสำเนียงเชคมาเป็นไฟเลยคร่าาา อธิบายทุกอย่างด้วยความรวดเร็วและให้เลือกว่าเราจะจ่ายตังค์เลยหรือจะจ่ายตอน Check out เราเลยบอกจ่ายเลยดีกว่า เพราะเกิดแกไม่อยู่อีก เรารึก็ต้องรีบไปขึ้นรถแต่เช้า เดี๋ยวตกรถเอา ฮา....
          ที่ดีอีกอย่างคือ แกบอกด้วยว่าให้ไปแลกเงินที่ร้านไหนได้เรทดีที่สุด เพราะแกเคยไปวนดูมาทุกร้านแล้ว ร้านที่ให้เรทดีชื่อร้าน N*59 ตามในรูปข้างล่างคร่าา ให้เดินตามทางเข้าใจกลางเมืองไปเรื่อยๆ จะเห็นเลยคร่าาา
ถ่ายร้านมารูปเดี๋ยว ป๊ากับม้ายืนบังซะเต็มจอ ถถถถ...
          นอกเรื่องมาเยอะละ พูดถึงห้องพักบ้าง ห้องพักกว้างมากและสะอาดสุดๆ มี 2 ห้องนอน พื้นเป็นพื้นไม้ รวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างดี ให้ความรู้สึกแบบว่า คิดถึงตอนเด็กๆ อ่ะค่ะ ฟินสุดในบรรดาที่พักทั้งหมดเลยค่ะ เราอยู่ชั้น 3 ค่ะและที่นี่ไม่มีลิฟท์อีกตามเคย (= - =) แต่คุณเจ้าของแกใจดีค่ะ แกบอกว่าปกติพี่ชายแกอยู่ จะช่วยยกสัมภาระไปให้ที่ห้อง แต่บังเอิญม่ายอยู่ แกเลยบอกว่าเดี๋ยวแกช่วยยกให้เอง ฮา...
ห้องพักกว้างมากกก แถมสะอาดมากก
อีกมุมหนึ่งของห้องคร่าาา
          ห้องน้ำนี่กว้างใหญ่ไพศาลค่ะ คือขนาดเกือบเท่าห้องนอน สะอาดอีกแล้วคร่าาา คือไม่มีที่ติเจงๆ เลย ที่พักในทริปนี้ของเราหาที่ติยากอ่อออ 555555
ห้องน้ำค่ะ กว้างจริงๆ นะ
ลืมๆ ว่าขึ้นมาชั้น 2 มีสวนหย่อมให้นั่งจิบชาด้วย
          มาถึงอาหารเช้า ปริมาณการตักเราน้อยลงเรื่อยๆ ค่ะ เพราะว่าเราเอียนพวกขนมปังกับ Cold Cut มากๆ แบบว่าเห็นแล้วถึงกับต้องทำใจก่อนตัก ถถถถถ... แต่ก็ต้องกินเพราะเค้ามีแต่แบบนี้ (T-T) ห้องอาหารน่ารักดีค่ะ รู้สึกฝรั่งเค้าชอบแต่งอะไรกระจุ๋งกระจิ๋งมันดูน่ารักไปหมดเลยค่ะ แล้วเรื่องความสะอาดนี่ ยกนิ้วให้เลยค่ะ ส่วนอาหารก็ไม่หลากหลายนะคะ ่เอาพออิ่มค่ะ แนะนำกิน Yogurt คร่าา อร่อยยย
ล็อบบี้กับห้องอาหารอยู่ที่เดียวกานนน
เนยต่างๆ และคอนเฟล็กซ์
Yogurt ต่างๆ เลือกเลยมีทุกรส
นม ชา กาแฟ ข้างๆ ที่ไม่ได้ถ่ายมาเป็น Cold Cut ต่างๆ ค่ะ

ที่พักในปราค (Accommodation in Prague)
          ที่พักในปราค เราหานานอยู่เหมือนกัน ตอนแรกจองโรงแรมนึงไว้แล้ว แต่ก็ไม่เอา เพราะบังเอิญเปิดๆ ไปเจอโรงแรมนี้สะดุดตาเลยเปลี่ยนมาพักที่นี่แทน สรุปเราพักที่ HOTEL WILLIAM ค่ะ ชื่อนี่ฟังดูบ้านๆ มากเลยใช่มั้ยคะ แต่ประตูชั้นในโรงแรมค่ะ ย้ำประตูชั้นในมันสะดุดตาเราค่ะ 55555 และดูเส้นทางเดินรถแล้ว เดินทางสะดวก รถรางมาส่งถึงข้างๆ โรงแรม เลยจองไป

นี่คือหน้าโรงแรมคร่า ประตูสีน้ำตาลคือประตูชั้นนอก
และนี่คือประตูชั้นใน (o-O)
          ราคาห้อง Double Room with 2 extra beds with Breakfast อยู่ที่ 99 EUR ต่อคืน (ตกคนละ 24.75 EUR/คืน) ห้องกว้างมากค่ะ ตกแต่งแนวย้อนยุคๆ สวยดีค่ะ แล้วก็สะอาดมากๆ เสียตรงฮีตเตอร์นี่ล่ะค่ะ แบบว่ามันไม่ค่อยทำงาน เราต้องทนกับความหนาวเหน็บประมาณนึง แม่เราบ่นอุบเช่นเคย (= - =)
ห้องนอนคร่าา
          ที่ต้องติอีกอย่างคือห้องน้ำคร่าาา แบบว่าเราเป็นคนเรื่องเยอะเรื่องห้องน้ำมากกก เราชอบพื้นห้องน้ำแห้งๆ แต่กระจกที่กั้นอ่างน้ำอ่ะค่ะ มันเลื่อนอ้าออกมาได้ แถมยังมีช่องทำให้เวลาอาบน้ำในอ่างน้ำมันจะไหลเจิ่งออกมาถึงอ่างล้างหน้าอ่า (= - =") เราแบบว่าเซ็งมากกก ต้องเอาผ้าเช็ดเท้าไปกั้นแล้วคอยซับไม่ให้น้ำไหลออกนอกเขต ฮืออออ
ห้องน้ำคร่าา
          ห้องอาหารตกแต่งได้น่ารักมุ้งมิ้งมากๆ คร่า เค้าว่าตกแต่งสไลต์เจ้าหญิง แบบว่าเดินเข้ามาแล้วจะรู้สึกว่า ฉันสวย ฉันเลิศเป็นเจ้าหญิงนะยะ ฮาาา... แต่ทว่าด้วยความช่างสังเกตของดั้น ทำให้ตาดันกวาดไปมองที่พื้นคร่าาา แบบว่าพื้นดำมากอ่าาา (T-T) มองในรูปอาจจะไม่ชัด เราว่าเค้าคงทำความสะอาดแล้วล่ะ แต่เหมือนเค้าขัดแล้วมันไม่ออก ติดเป็นคราบดำถาวรบนพื้นสีฟ้า ถถถถถ...
          อาหารที่นี่หลากหลายค่ะ จะกิน Omelette ก็ขอให้คนครัวทำได้ก็นะคะ (^ - ^)
ห้องอาหารคร่าา
ขนมปังกับ Cold Cut อีกแล้ว ฮึๆ
Cornflakes & Fruits & Salad
มีข้าวคร่าาา ปลื้มมมม (T-T) ข้าวไข่ดาววว

ที่พักในคราคูฟ (Accommodation in Krakow)
          ที่สุดท้ายละคร่าาา (ปาดเหงื่อเบาๆ...) ในคราคูฟนี่เราหาที่พักไม่นานค่ะ เพราะราคาที่พักค่อนข้างถูก แต่ตัดสินใจก่อนจองนี่นานค่ะ 55555 สรุปคือเราจองเป็น Apartment ชื่อ Madera เจ้าของชื่อ Mr. Daniel ค่ะ ดูเฮ้วๆ หน่อยแต่แกใจดีค่ะ และแกเป็นผู้ชายตัวใหญ่ เลยช่วยพวกเรายกกระเป๋าขึ้นห้องสบายๆ ไม่มีลิฟท์นะคร้า พอขึ้นห้อง แกก็จะอธิบายกฏต่างๆ แล้วให้เซ็นเอกสารกรณีทำของเสียหาย (แกไม่เก็บมัดจำนะคะ แค่เซ็นเฉยๆ ถ้ามีอะไรเสียหายค่อยจ่ายทีหลัง) กับใบเสร็จรับเงินค่าห้อง แล้วก็เวลา Check out แกบอกจะมาตอน 9 โมง ถ้าเช้ากว่านั้นให้โทรบอก เป็นอันจบพิธี
          ที่พักอยู่ใกล้ป้ายรถรางค่ะ เพราะฉะนั้นสะดวกต่อการเดินทางแน่นอน แต่ว่าถ้ามาครั้งแรก ไม่ต้องตกใจทางเดินไปห้องนะคะ จะน่ากลัวและวังเวงนิดนุง 555555 แต่ว่าพอเข้าไปในห้องแล้วคนละเรื่องเลยคร่าาา ห้องสวยมาก อุปกรณ์ทำครัวทุกอย่างครบครัน จะทำอะไรเชิญตามสบาย แค่อย่าทำไฟไหม้เป็นพอ ฮาาาาา 
นี่คือหน้าที่พักค่ะ เจอป๊าม้าบังอีกแบ๊ว ฮาาา
          ห้องที่เราจองเป็นแบบ 2 bedrooms ราคาห้อง ไม่รวมอาหารเช้าอยู่ที่ 54 EUR ต่อคืน (ตกคนละ 13.5 EUR/คืน) ที่่นี่อาหารราคาไม่แพง เราเลยคิดว่าเดี๋ยวไปหากินเอาก็ได้ ไม่รีบค่าาา
          ห้องพักกว้างมากค่ะ มี 2 ห้องนอน มีเตียงทั้งหมด 4 เตียงค่ะ จริงๆ ห้องนี้อยู่ได้มากสุด 6 คนค่าาา
ห้องพักกว้างและสะอาดค่ะ
ส่วนนี้เป็นครัว อุปกรณ์ครบ
เครื่องซักผ้าใช้ได้ค่ะ แต่อย่าทำพัง 5555
Cabin อาบน้ำ ดีสุดๆ

*****สรุปค่าที่พักตลอดทั้งทริป*****
          ตอนนั้นเราไปเรทเงินยูโรต่อเงินบาทอยู่ที่ราวๆ 37 บาทค่ะ แต่เราจะไม่คำนาณเป็นเงินบาทนะคะ ให้ลองคำนวณเล่นๆ กันเอง อิๆ

          - Hotel Eder 3 คืน จ่ายไป 410 EUR
          - Goldenes Theater Hotel Salzburg 3 คืน จ่ายไป 315 EUR
          - Urban Stay Hotel Columbia 3 คืน จ่ายไป 336 EUR
          - Penzion Gardena 1 คืน จ่ายไป 98 EUR
          - Hotel William 2 คืน จ่ายไป 198 EUR
          - Hotel Diament Ecomony 2 คืน (180 EUR) ตอนแรกจะพักที่นี่ค่ะ แต่สรุปไปค้างบ้านแควนแทน
          - Madera Apartment Krakow 2 คืน จ่ายไป 108 EUR       

          สรุปเราจ่ายค่าที่พักไปทั้งหมด 14 คืน (คืนแรกนอนสนามบินกับบ้านแควนไม่นับคร่า ฮาาา) รวมเป็นเงิน 1,465 EUR / 4 คน สำหรับเราถือว่าไม่ถูก ไม่แพง ถ้ามีโอกาสอยากไปหาเส้นทางใหม่ๆ อีกกกก ภาวนาให้เราได้ไปด้วยน้า แล้วจะเอามารีวิวอีกนะคร้าาา

          ปิดท้ายด้วยท่านนักเปียโนระดับโลก จริงๆ แกแค่ท่าสวยค่ะ แต่เล่นไม่เป็น ถถถถถถ....(= - =")