Sunday, November 2, 2014

Katsu King @ K Village (*^w^*)

                       มา K Village กันอีกแล้วจ้า... คราวนี้มากัน 3 หน่อจ้า เป้าหมายชัดเจนว่าจะมาหาอะไรกินกัน แต่ไม่รู้จะไปกินร้านไหนดี ลองมาก็หลายร้าน อยากกินร้านใหม่ๆ หรืออาหารที่ยังไม่เคยลอง เดินจนขาลาก วนแล้ววนอีก สุดท้ายก็มาจบที่ Katsu King!
แกงกะหรี่กุ้ง (ยักษ์) ทอด
เยียมไปเบย...
ราเมงอะไรจำไม่ได้ รู้แต่เค็มๆ
ข้าวหน้าปลาไหล...ฟินสุด
                       รสชาติอาหารอร่อย...เป็นบางอย่าง อย่างข้าวแกงกะหรี่ก็ทั่วๆ ไป ราเมง ไม่ค่อยเวิร์ค เค็มปี๊ พี่สาวสั่งมากินไปได้ครึ่ง เราเลยซัดต่ออีกครึ่ง 5555 ข้าวหน้าปลาไหล จานนี้ฟิน...แต่กินๆ ไปได้ซักครึ่งกล่อง ชักจะเอีอน ปลาไหลไม่คาวเลยจ้า แต่กินๆ ไปมันเลี่ยนจริงๆ นะ...(((. =*)
                       บริการดีเลิศ อาจจะเพราะคนน้อยด้วย ขนาดวันอาทิตย์นะเนี่ย

Kanomjeen Bangkok @ Central Rama 2

                      เซ็นทรัลพระราม 2 บ้านหลังที่สองของพวกเรา... (^. ^*) คราวนี้มากินร้านขนมจีนบางกอก ซึ่งคนจะแน่นมากในวันเสาร์-อาทิตย์ ราคาก็อัพเกรดจากขนมจีนทั่วๆ ไป แต่รสชาติขนมจีนไม่ได้อร่อยสมราคา 5555 ที่อร่อยคือ ก๋วยเตี๊ยวต้มยำและบุฟเฟต์ผักที่ตักได้ไม่อั้น
                      ขนมจีนจะมาพร้อมเครื่องเคียง ยำ หนังปลากรอบ (บางทีก็หนังหมูทอดแล้วแต่น้ำยาที่สั่ง) แล้วก็ไข่ต้ม
ขนมจีนน้ำยาแกง
ก๋วยเตี๊ยวหมูต้มยำ แซ่บ!
ยำเห็ดรวม
                       สนนราคาเบาะๆ ที่ราว 79 - 129 บาทต่อเซ็ต เราว่าแพงไปนิดแต่ก็เข้าใจ มาเปิดในห้างนี่เนอะ พนักงานเยอะด้วย o(_ _o)

Saturday, September 6, 2014

Italian Restaurant @ Saladeang Soi 1

                      นายพามาทาน Team Lunch ที่นี่ 2 ครั้งค่ะ เจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลียนที่ใจดีและตลกมากๆ ค่ะ ชอบออกมาคุยกับลูกค้า แต่น่าเสียดายที่ร้านนี้ปิดไปแล้ว ตอนรู้ว่าปิดไปแล้ว เศร้ามากๆ (((-T) เพราะเป็นอาหารอิตาเลียนแท้ๆ อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมาแล้วค่ะ แถมราคาไม่แพงเลยยยย ร้านอยู่ชั้น 2 ของตึกเช่าในซอยศาลาแดง 1 ออกลึกลับหน่อย มีไม่กี่โต๊ะ แต่ตกแต่งน่ารักมากๆ เราชอบที่นี่มากๆ
                      อาหารที่นี่ให้ห้าดาวเลยค่า d(((-^) ให้รสชาติแบบอิตาเลียนแท้ๆ หนักเครื่อง เมนูแนะนำเลยคือ ลาซานญ่าค่ะ อร่อยและเข้มข้นเป็นที่สุด เหมือนเค้าทำเป็นถาดใหญ่ๆ แล้วตักเสิร์ฟเป็นชิ้นๆ (ปกติเราจะเห็นเสิร์ฟเป็นถาดเล็กๆ มาค่ะ) เป็นแรงบันดาลใจให้เราทำลาซานญ่าเองเลยล่ะ อิอิ

มอซซาเรลล่าสดกับมะเขือเทศ
นี่ล่ะค่ะ ลาซานญ่าที่ว่า อร่อยมว๊ากกก
ทีรามิสุ
                      อยากบอกว่าเราไม่เคยชอบทานทีรามิสุเลย เพราะไม่เคยกินที่ไหนแล้วรู้สึกว่าอร่อย แต่นายบอกให้ลองดูก่อน พอเรากินคำแรก แบบว่า เฮ้ยยยยย...ทำไมมันอร่อยแบบเน้ เกือบพลาดไปแล้วมั้ยล่ะ 5555 รสชาติเข้มข้น ไม่ขมเลย แถมหอมอีกต่างหาก อร่อยเหาะขึ้นสวรรค์มันเป็นแบบนี้นี่เอง เหอๆๆ

อันนี้เป็นบัตเตอร์เค้ก อร่อยมากๆ เหมือนกันค่ะ
                      จริงๆ สั่งพิซซ่าแซลมอนกับซาลามี่แป้งบางกรอบ กับสลัดผักสดทูน่ามาด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมา แอบเกรงใจนายกับพี่ๆ ที่มาด้วย ฮาาาา ทั้ง 2 เมนูที่ว่าก็อร่อยมากๆ พิซซ่าแป้งกรอบ หอมมากๆ แซลมอนสดสุดๆ ผักสลัดก็สดกรอบมากๆ ค่ะ
                      ราคาทั้งหมดประมาณพันกว่าบาท ไม่เกิน 1500 บาทค่ะ (พิซซ่าแซลมอล+ซาลามี่, สลัดทูน่า, มอซซ่าเรลล่าสด, ลาซานญ่าและของหวานอีก 2 เมนูค่ะ) คิดแล้วก็ยังเศร้า ไม่น่าปิดเลยจริงๆ ค่ะ ทุกวันนี้เดินผ่านทุกวันก็ยังมองทุกครั้ง เห็นติดป้ายประกาศขายอุปกรณ์ทั้งหมด น่าเสียดายจริงๆ ค่ะ (((-T)

Gimju Korean Restaurant @ Asiatique

                     ร้านอาหารเกาหลีประจำครอบครัวเราค่ะ นึกอะไรไม่ออกก็ไป Gimju 555 กินมาประมาณ 5 ครั้งได้ละค่ะ มี๊ชอบมากเพราะมีเคาน์เตอร์ผักกับน้ำจิ้มที่ตักได้ตลอดๆ แบบฟรีๆ เคยไปสาขานึง ไม่มีเคาน์เตอร์ผักให้ตักฟรี มี๊แอบมีไม่พอใจด้วยอ่ะ 555 เพราะฉะนั้นต้องมาที่สาขา Asiatique เท่านั้น
                     นอกจากจะเป็นร้านประจำแล้ว ยังสั่งแต่เมนูเดิมๆ อีกต่างหาก ฮาาาาาา...
             
หมูชุดใหญ่ มาทีไรก็ต้องสั่งมาก่อน ฮาาา
อันนี้ก็สั่งประจำ แต่จำชื่อไม่ได้ เป็นไก่ทอดงาหวานๆ
ข้าวผัดกระเทียม ขาดไม่ได้เด็ดขาด
จำชื่อเมนูไม่ได้ เป็นอาหารจักรพรรดิอะไรซักอย่าง 555
ของที่ต้องกินคู่กันทุกครั้งของเรา (((-<)

ร้าน Balee Laos Sukhumvit 16

                    พี่สาวซื้อ Deal ของ Ensogo ค่ะ เลยมีโอกาสได้มาทานร้านนี้ เป็นร้านอาหารไทยอีสานในซอยสุขุมวิท 16 ซื้อดีลไป 429 บาท มูลค่าที่ทานได้คือ 1,000 บาทค่ะ
                    บรรยากาศร้านตกแต่งแบบไทยอีสานผสมสไลต์ตะวันตกนิดๆ ออกมืดๆ เอ๊ะ...หรือตอนเราไปบรรยากาศข้างนอกมันอึมครึมเหมือนฝนจะตก ภายในร้านเลยมืดๆ หน่อย 5555 แต่ก็มีพนักงานเดินมาจุดตะเกียง แสดงว่าเค้าตั้งใจให้ภายในร้านออกแนวมืด...อืม 
                     เรามาทานกันวันเสาร์ประมาณบ่ายโมงกว่า ไม่มีคนเลยค่ะ มีโต๊ะเราโต๊ะเดียว... แต่เราว่าคนน่าจะมากินดิ่มกันเยอะตอนเย็นๆ และน่าจะเน้นลูกค้าชาวต่างชาติมากกว่า เพราะราคาอาหารนี่แอบแพงมากๆ อยู่ค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน
                         เปิดดูเมนูกันไปมาหลายรอบตามสไลต์บ้านเรา 555 สรุปก็ได้เมนูตามด้านล่างนี้เลยค่า... จริงๆ มีกุ้งกระบอกอีก 1 เมนู แต่หารูปไม่เจอ ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ไหน d(((-T) 
ต้มยำไก่นาใบมะขามอ่อน...แซ่บเว่อร์
ปลากะพงทอดตะไคร้...กรุบกรอบแบบโอเมก้า ทรี
ปลาช่อนลุยสวน....เปรี้ยวจี๊ด
ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ...เข้มข้นถึงเครื่อง
ยำผักบุ้งทอด...กรอบกรุบ 555
ปูนิ่มราดกะเพรา
                    รสชาติอาหารโดยรวมสำหรับเราถือว่าผ่านค่า ให้สี่ดาว d(((-^) อาหารสดและปรุงได้ถึงเครื่องดีทีเดียวค่ะ แต่ราคาไม่เป็นมิตรกับผู้บริโภคเท่าไหร่ ...เหอๆๆ ต้องจ่ายเพิ่มอีก 2,700 บาทจากบัตร ensogo 1,000 บาท (((-O) มื้อนี้ 7 เมนู 3,700 บาทเลยหรือนี่!! เอ....ตอนดูเมนูก็ไม่ได้จำราคาซะด้วย (((_-) เลยถามน้องพนักงานว่า นี่หักจากส่วนลด ensogo แล้วจริงง่ะ? เค้าบอกหักแล้ว....ตะลึงตึงๆ เมนูละ 500 กว่าบาท! อาหารอร่อยอยู่หรอกค่ะ แต่ราคาขนาดนี้ เราว่าร้านอื่นที่อร่อยประมาณนี้แต่ราคาย่อมเยากว่านี้ก็น่าจะมีเยอะอยู่เหมือนกัน... แต่ถ้าอยากลองทานดู ก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ แต่สำหรับเรา ครั้งเดียวก็พอแล้วล่ะค่า

Anatara Hua Hin & Swiss Sheep Farm! X3

          คราวนี้มาทริปกับบริษัทค่ะ วันที่ 26 - 27 กรกฎาคม เป็นทริปหัวหิน พักกันที่ Anatara Resort & Spa เราเลยถือโอกาสนี้จองที่พักต่างหากให้ปี๊มี๊และน้องสาวมาพักด้วยค่า
          การจองที่พักให้ปี๊มี๊เรามีปัญหานิดหน่อยค่ะ เพราะว่าเราจองเองผ่าน booking.com บังเอิญช่วงที่เราเข้าไปดูราคา เราเห็นมี Smart Deal ห้อง Premier Garden View แค่ 6,747 Nett เท่านั้น! เราเลยรีบจองไป...ปรากฎว่า บัตรที่เราใช้รูดการันตีไม่ผ่านซักใบ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้...(((_-) เราเลยติดต่อกับทางโรงแรมโดยตรงเลยค่ะว่าทำไมบัตรเรารูดไม่ผ่านทุกใบ เอ๊ะ...มันยังไง ทางโรงแรมจึงแจ้งว่าราคาหน้าเว็บ booking.com นั้นผิด จริงๆ ต้องราคา 8,800++ เราก็เซ็งนิดๆ ไม่ได้เซ็งที่ราคาขึ้น แต่เซ็งที่ทำไมไม่แจ้งเราตรงๆ มาบอกว่าบัตรเรารูดไม่ผ่าน... แล้วเหลือแค่อาทิตย์กว่าๆ ด้วย
          แต่ทาง booking.com ก็โทรมาขอโทษเราในภายหลังนะคะว่าลงผิดจริงๆ จะคิดที่ราคา 8,800 Nett ให้เป็นพิเศษ เราก็ตกลงเพราะทางเจ้าหน้าที่พูดกับเราดีมากๆ ค่ะ แต่ทว่า...เราลองเข้าไปเช็คราคาดูอีกครั้ง อ่าว...ไหงยังเป็นราคา Smart Deal เดิมอยู่ล่ะคะคุณพี่ เราเลยแจ้งทางโรงแรมอีกครั้ง ว่าขอเปลี่ยนเป็นห้องวิวทะเลได้มั้ย เพราะราคาถูกกว่าห้องวิวสวนหย่อมอีก (((-O)...แต่เรายอมจ่ายราคาเดิม ทางโรงแรมบอกว่าไม่สามารถให้ได้ จะให้เป็นเตียงเสริมฟรีแทนละกัน และคิดค่าอาหารเช้าราคาพิเศษสำหรับคนที่ 3 ให้ที่ 450 บาท (จากราคาเต็ม 636 บาท) เราก็เป็นอันตกลงกันได้
         **สรุปคือถ้าใครจะจองราคา Smart Deal กับทาง booking.com แล้วเจอปัญหาแบบเรา ก็ติดต่อถามทางโรงแรมโดยตรงเลยดีกว่าค่ะ เพราะเราเสียเวลาใส่บัตรกับรอคอนเฟิร์มไปตั้ง 3 ครั้งแน่ะ**

         แต่พอมาถึงที่พักจริง ผ่าง....! ทางพนักงานบอกว่า บังเอิญห้องวิวทะเลว่างพอดี เค้าเลยยกห้องวิวทะเลให้... (แต่น้องมาบอกทีหลังว่า...ตอนกลางคืนเสียงดังมากเพราะมีปาร์ตี้...(((_-) สรุปคือ...มันไม่ดีใช่มั้ย...)
         ห้อง Premier Sea View วิวสวยมากค่ะ มี Balcony ให้มานั่งชมวิวชิลๆ ด้วย แถมลมพัดเอื่อยๆ อ๊า... ภายในห้องพักก็กว้างและสะอาดดีค่ะ แต่ห้องน้ำ ท่อแอบตันนะคะ น้ำไหลลงช้ามาก...o(_ _o)  
Papa chills out on the balcony!
          เราพักห้อง Deluxe Garden View แต่ปี๊มี๊และน้องสาวพักห้อง Premier Sea View มาด้วยกันแต่ถูกแบ่งอยู่กันคนละชนชั้นค่ะ ฮาาาา
My parents' room Premier Sea View
Deluxe Garden View Room
          ห้อง Deluxe Garden View ห้องพักก็กว้างและสะอาดดีค่ะ แต่เราไม่ปลื้มห้องน้ำเลยค่ะ (((_T) เราค่อนข้างเรื่องมากเรื่องห้องน้ำ และเราหวังมากว่ารีสอร์ทห้าดาวน่าจะเลิศ... แต่ผิดคาดไปค่อนข้างมาก อุปกรณ์ไม่ครบ ขาดยาสีฟัน...ต้องไปขอพนักงาน เศร้า...
          บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นดีค่ะ ต้นไม้เขียวชอุ่ม ตื่นมาสูดอากาศตอนเช้านี่ฟินกันไปเลยยย...
ทางเดินไปห้องพัก
           ไปดูไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้ากันดีกว่าว่ามีอะไรให้เราเพลิดเพลินกันบ้าง อิอิ... อาหารเช้าที่นี่หลากหลายค่ะ มีทั้งอาหารเช้าแบบไทยและแบบเทศ (((-<)/
แฮมและชีสต่างๆ
ตรงนี้เป็นมุมอาหารไทยค่า
อันนี้มุมคอนเฟล็กซ์กับผลไม้อบแห้ง
ตรงนี้เป็นแพนเค้กกับขนมปังชุปไข่ตามสั่งจ้า
มุมโยเกิร์ตต่างๆ กับผลไม้สด
ตรงนี้เป็นไข่สเตชั่น สั่งได้ เร็วด้วย
เอาอะไรดีน้อ
ตักมาทุกอย่าง อย่างละ 1 ชิ้น ^-^
ออมเล็ต...ทำอร่อยดีค่ะ กับน้ำส้มและนม
ต่อด้วยคอนเฟล็กซ์และโยเกร์ตมูสลี่
               อิ่มสุดๆ กันไปถ้วนหน้าอ่าค่ะ เราตื่นขึ้นมากินตั้งกะ 7 โมงเช้า เพราะเราไม่ชอบมากินตอนคนเยอะๆ มันดูวุ่นวายมากมาย ส่วนปี๊เราตื่นมากินก่อนอีก เพราะปี๊จะไปว่ายน้ำต่อและกลับมากินอีกรอบตอนสิบโมงเผื่อมื้อเที่ยงไปเลย...5555 โห...แผนการแยบยลอะไรเยี่ยงนี้ปี๊เรา
สวีทกันจัง ฮิ้ววว...
ช่วยพะยูนคืนสู่ท้องทะเล xD


Next Destination: Swiss Sheep Farm

                   ขับรถมาอีกหน่อยก็มาถึง Swiss Sheep Farm ทางผ่านกลับกรุงเทพฯ เลยแวะซักหน่อย ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 50 บาทค่า บัตรเข้าชมนี่เอาไปแลกหญ้าเลี้ยงแกะได้ 1 กำ!
                   ทางเข้าน่ารักมากๆ ค่ะ ข้างในกว้างขวาง บรรยากาศดีสุดๆ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ ชื่อ Sheep Farm ก็ต้องมีแกะสิเนอะ .... มีแกะเยอะทีเดียวค่ะ แต่สงสารอ่ะ ดูเหมือนหิวโซมากทุกตัวเลย (((-T) ไม่รู้เค้าให้กินอาหารบ้างรึป่าว... นอกจากแกะแล้วก็มีม้ากับม้าแคระ และไก่อีกนิดหน่อยค่ะ ให้ดูสมเป็นฟาร์มหน่อย 5555
ทางเข้าที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่าย
คุณแกะมากมาย น่ารักอ่า...
มุมสะพานข้ามคลองเล็กๆ กับฉากหลังกังหันลม
คุณปี๊ในอีกมุม
                     ใช้เวลาที่นี่ประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะก็เดินรอบแล้ว โดยรวมเราชอบเลยล่ะค่ะ เพราะเราชอบแกะอยู่แล้วววววว จริงๆ คือชอบสวนสัตว์ทุกที่ล่ะ 5555 จริงๆ ก็สงสารด้วยเหมือนกันนะ เพราะรู้ว่าสัตว์โดนเอามาขัง (((-T) ก็ได้แต่หวังว่าพวกเค้าจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีนะคะ

Saturday, July 5, 2014

Chatrium Hotel Riverside + ข้ามต้มปลาเจ้าเก่า

                      เมื่อวันแรงงานปีที่แล้ว จองห้องที่โรงแรม Chatrium ให้ปี๊มี๊ไปนอนเล่นดู ปี๊ชอบเปรยๆ ว่าอยากลองนอนโรงแรมหรูๆ ดู เลยลองดู Agoda โอ๊ะ...ถูกแฮะ คลิกจองทันที พอจองแล้วถึงบอกเพราะถ้าบอกแล้วค่อยจองคงโดนเบรค เหอๆๆ พนักงานต้องแอบสงสัยแน่ๆ ว่าอยู่กรุงเทพฯ แล้วมาจองโรงแรมในกรุงเทพฯ นอน พิลึกคนแฮะ...555 หรือไม่ก็อาจจะคิดว่าปี๊มี๊เดินทางมาจากต่างจังหวัดรึป่าว... ตอนนั้นจองเป็นห้อง Grand Room River View ไป
                      ไปดูบรรยากาศหน้าโรงแรม 
ยิ้มแป้นกันเชียะ
                       แล้วมาดูบรรยากาศบริเวณสระน้ำ... ลมโกรกดีมากๆ เลยล่ะ ขนาดหน้าร้อน พอมายืนบนนี้จะเย็นสบายมั่กๆ
มีฟามสุกจังฮู้
อีกฝั่งนึง
River View ขอบคุณนะค้าที่ให้ห้องวิวดีๆ
                            เราถ่ายห้องมาด้วยล่ะ.... แต่น่าเสียดายที่มันหายไปไหนก็ไม่รู้ อาจจะพลั้งมือกดลบทิ้งไป ฮืออออ /(T-T)\ ห้องสะอาดพอใช้ค่ะ ส่วนห้องน้ำก็สะอาดดี จากคอมเม้นท์ของปี๊มี๊ แต่หลังจาก Check Out เค้ามีให้ทำแบบสอบถาม เราคอมเพลนเรื่องความสะอาดไปค่ะ เพราะเราว่าโรงแรมห้าดาว มาตรฐานความสะอาดควรจะอยู่ในขั้นดีมั่กๆๆๆ
                            ตอนเย็นของวันนั้น เราลงมากินข้าวต้มปลาที่แพงที่สุดในโลกกันค่ะ 555 อยู่ใกล้โรงแรมแค่เดินข้ามถนนมาเท่านั้นค่ะ ชื่อร้าน ฮ้อ ข้าวต้มปลาเจ้าเก่า 
                            มาดูเมนูกัน...
ฮูวววววว
                              เสียดายที่วันนั้นไปไม่มีปลาเต๋าโต้ย....ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคือปลาประเภทไหน เลยอยากลอง เฮียคนรับออเดอร์บอก หมด...(((_-) เลยกินข้าวต้มปลาเก๋าแบบสามัญชนไปแทน ข้าวต้มปลาเก๋าร้านนี้แพงที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยกินมา 100 บาท!!! แต่ยอมรับเลยว่าเนื้อปลาเด้งดึ๋ง สดมั่กๆๆๆ น้ำซุปก็กลมกล่อม ข้าวเป็นเม็ดๆ ไม่แข็งเกินหรือแฉะเกิน.... คุ้มอยู่เหมือนกันค่ะ 555 สั่งเหมือนกันไปคนละชาม และมีอาหารจานกลาง 1 จานคือยำรวมมิตร
ข้าวต้มปลาเก๋า 100 บาท
ยำรวมมิตร 150 บาท