Thursday, January 24, 2013

ชิล...ชิลที่ Mesamis Cafe (^O^)

                        เรามาทานกันที่ Mesamis Cafe สาขาราชดำริค่า...อยู่ในบริเวณโรงแรม Grand Center Point (ถูกป่าวหว่า...><) บรรยากาศดีมาก ไม่ค่อยมีคน เราไปถึงตอน 11 โมงกว่า ในห้องอาหารไม่มีคนเลยค่า...ถ้ามีเสียงจิ้งหรีดคงได้ยินแล้ว...ฮา ตอนแรกเรากะมาทานโปรโมชั่นบุฟเฟต์เค้ก พร้อม Main Course ที่อ่านมาจาก Facebook ของทางร้าน แต่ก็ต้องผิดหวังอ่า...พนง.บอกว่าไม่มีแล้ว มีแต่บุฟเฟต์อาหาร กับเค้กมุมนึงเองง่า...ตอนแรกว่าจะย้ายไปกินสาขาถนนวิทยุ แต่ถามพนง.บอกว่า สาขานั้นเน้นเค้ก ไม่เน้นอาหาร แต่ก็ไม่มี Main Course ให้เหมือนกัน...555 ชวดเลยเรา
                        ไหนๆ ก็มาแล้ว ล้างท้องมาแต่เช้าแล้วด้วย...ฮือ ด้วยความหิวเราเลยไม่ได้ถ่ายอาหารคาวเลยอ่า... อาหารคาวในไลน์จะมี
                            - สปาเก็ตตี้ผัดอะไรไม่รู้อ่ะ
                            - ปลาดอลลี่อบ (อันนี้แนะนำ...อร่อยที่สุด กินจนเปรม)
                            - ข้าวผัด
                            - หมูผัดรวมผักอะไรสักอย่าง (ปี๊บอกอร่อยนะ)
                            - ไก่อบซอสอะไรไม่รู้ สีขาวๆ (อร่อยดี แต่ก็ยังไม่ที่สุด)
                            - แล้วก็มีพวกสลัด ผักต่างๆ
                       อีกฝั่งจะเป็น
                            - ของทอด พวกกุ้งทอด เปาะเปี๊ยะ เกี๊ยว ฯลฯ
                            - ซูชิ ห่อสาหร่ายธรรมดาๆ ค่ะ
                            - พวกขนมปังต่างๆ อร่อยค่ะ
                            - มีสายไหมให้ทำเล่นด้วย
                       มุมอื่นๆ จะมีขนมไทยเป็นลอดช่อง แล้วก็พวกคอนเฟลคกับนม
                       
                       ขอโทษด้วยน้า..ทุกคนที่เราไม่ได้ถ่ายอาหารเลยอ่า ไปเสียเที่ยวจริงๆ ง่า เสียใจสุดๆ >_<"
พวกเค้กกับขนมหวานจ้า

                 
ของเราเอง..อิอิ
เจ๊ทำฟองดูร์
       
                   ปิดท้ายด้วยภาพแห่งความทรงจำอีกที่..
ภาพเปี่ยมสุข (>~<)





อิ่มอร่อย "ภัตตาคารสกาล่า" ค่า (>~<)

                         ปีใหม่นี้บ้านเราก็ไม่ได้ออกต่างจังหวัดกัน เที่ยวกันอยู่ในเมืองกรุงนี่แหละ ปี๊เลยชวนไปกินรับปีใหม่กันที่ภัตตาคารสกาล่า...ที่หลายคนร่ำลือว่า เป็ดปักกิ่งเค้าอร่อยจริงนะเออ และเจ้าของสกาล่าก็เป็นหนึ่งในลูกค้าอันทรงเกียรติที่สั่งพวกขนมคบเคี้ยวจากปี๊มานมนาน...ใครไปดูหนังก็ฝากอุดหนุนกันด้วยนะเคอะ >~<"  
                            ได้ที่นั่งปุ๊บก็สั่งกันเลย...อิอิ







ออเิดิร์ฟจานแรก คุณกุ้งโรยงา สีเหลืองกรอบน่าทานมากกก
มาพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย อร่อยสุดๆ











จานต่อมาขาหมูหมั่นโถว สั่งตามที่คนอื่นแนะนำกันมาเป๊ะๆ ... ฮา ได้ยินว่าหมั่นโถวนุ่มมาก แต่เราเฉยๆ อ่ะค่ะ มาร้อนๆ เลย แต่ไม่ได้นุ่มขนาดน้าน นุ่มเหมือนทั่วๆ ไป ส่วนขาหมูมันเยิ้ม อร่อยมากค่า ไม่ได้อร่อยที่มันเยิ้มอร่อยตรงน้ำราดเนี่ย กลมกล่อมสุดๆ 








ถัดมา เป็ดปักกิ่งจ้า เรามากันเพื่อสิ่งนี้แล~ หนังเป็ดแล่ออกมาได้ทั้งหมด 2 จาน มาพร้อมแป้ง ผักเคียงและน้ำราด ถามว่าอร่อยสมคำร่ำลือมั้ย อืม เฉยๆ ง่า เคยกินของโีรงแรม Evergreen ที่น้องสาวห่อมาฝาก อร่อยกว่านี้อ่า...แต่บางคนอาจจะชอบก็ได้นะ แล้วแต่รสสัมผัสของแต่ละคน...ฮึๆ




                  จากคุณเป็ดเมื่อกี้ที่ถูกถลกหนังออกไปเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเอาเนื้อไปทำอะไรต่อมิอะไรได้อีก 1 อย่าง (ฟรี) 2 อย่าง (คิด 80 บาท) เราเลือกให้เค้าช่วยทำเป็ดกระเทียมกับราดหน้าเป็ดจ้า





เป็ดกระเทียม อร่อยแต่เนื้อเหนียวไปนิดส์นึง น่าจะนุ่มกว่านี้จะเวิร์คมาก (นี่เราเรื่องมาไปมั้ย...เหอๆ)









อันนี้ราดหน้าเป็ด ตอนแรกจะสั่งลาบเป็ด เคยอ่านเจอมีคนบอกว่า จืด อย่าสั่ง เลยสั่งราดหน้า เราว่าจืดพอกันอ่ะค่ะ เราไม่ค่อยชอบกินราดหน้าเป็นทุนอยู่แล้วด้วย...อิอิ






                              
                       รวมๆ อาหารก็โอเคค่ะ แต่มีความสุขที่ได้มากินกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ความอร่อยเลยเพิ่มขึ้น 555 ...รักทุกคนนะ จุ๊บๆ
ภาพแห่งฟามสุข (>~<)


Omu Japanese Rice

                   เรามาทานข้าวกับปี๊มี้และน้องสาว...ที่ Japanese Omu Rice ที่ Central world ชั้น 6 ค่า ด้วยการชักชวนของน้องสาวผู้ชอบชิมทุกสรรพสิ่งในโลกหล้า...>~<
                    เดินกันจนเมื่อยแล้ว ก็มานั่งสั่งอาหารทานกันเลยดีฟ่า จานแรกที่มาก่อนเพื่อนก็คือข้าวห่อไข่ราดแกงกะหรี่โรยชีส~ (จำชื่อจริงๆ ไม่ได้...ฮา)   
ชีสไหลเยิ้ม~
                     รสชาติออกเค็มไปหน่อย เพราะแกงกะกรี่ก็ออกเค็มๆ อยู่แล้ว ราดชีสยิ่งเค็มขึ้นอีก แต่ก็โอเคอ่ะ เพราะชอบกลิ่นแกงกะหรี่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว..อิอิ
                    จานต่อมาเป็น Cream sauce Omurice with shrimp, spinach and mushroom เป็นครีมซอส มีกุ้ง ผักโขมกะเห็ด
อร่อยเหาะ~
                  รสชาติกลมกล่อม อร่อยเลยแหละ ไม่เค็มเหมือนจานก่อนหน้า ถ้าไปกิน จานนี้แนะนำจ้า (จำรูปไว้...55)  ส่วนจานสุดท้ายของเราเอง Demigalce sauce Omurice with pork
เบอร์เกอร์อร่อยได้อีก~
                      รสชาติออกเค็ม เดมิกลาซอสเค็มเหมือนแกงกะหรี่เลยอ่า... แต่เบอร์เกอร์อร่อยม๊าก ตัดออกมาน้ำซุปไหลจ๊อกออกมาเลย เนื้อหมูรสชาติกำลังดีไม่เค็มมาก แต่พอราดเดมิกลาซอส เลยทำให้รสมันกร่อยไปหน่อย ...ก็แล้วแต่คนชอบ บางคนอาจชอบเค็ม...อิอิ
                     ส่วนมี้เราไม่ทานจ้า เพราะนางอิ่มหนำมาจากบ้านเรียบร้อย (>~<) สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 800 กว่าๆ แพงเหมือนกันนะนี่ ><"


Tuesday, January 22, 2013

บันทึกท่องเที่ยว : สิงคโปร์ครั้งแรกกับปี๊มี้ (9พ.ย.55)

               วันที่ 9 พ.ย.55 Sentosa Island / Universal Studio
               07:00 วันนี้เราฟื้นฟูกำลังขากันเรียบร้อย พร้อมลุย...เลือกไม่กินข้าวที่ฟู้ดคอร์ดหน้าโรงแรมเพราะคิดว่าอยากไปกิน Food Republic ที่ Vivo City เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง...แต่เราไปถึงที่นั่นแปดโมงเช้าอ่า...ไม่มีอะไรเปิดเลย ดีนะที่ห้างยังปรานี ให้เราขึ้นมา เลยเดินออกมาที่ลานชั้น 3 ของ Vivo City และโชคดีที่เราเป็นชนกลุ่มแรกที่มาแต่ไก่โห่ (ก่อนคนงานอีก...55) ทำให้ได้เห็นวิวที่สวยโคตร ลมพัดเอื่อยๆ อากาศเย็นสบาย แสงอาทิตย์รำไรไร้ผู้คนเซ็งแซ่ สงบม๊าก~~
วิวสวย แต่ถ่ายไม่ได้เรื่องเล๊ยเรา...555
   มองไปอีกฟากเป็นเกาะ Sentosa เห็นปราสาท Shrek และเครื่องเล่นอื่นๆ สวยได้อีก…มองไปอีกด้านเป็นกระเช้าที่รับส่งคนข้ามเกาะ สวย~~~~ รู้สึกโชคดีที่ตื่นมาแต่เช้า...นกที่ตื่นเช้าจะได้กินหนอนตัวอ้วนนะ 555
รถไฟฟ้าสีลูกกวาด >~<
9.00 เตรียมข้ามเกาะด้วยรถไฟฟ้า Sentosa จ่าย 3$ นั่งฟรีทั้ง 4 สถานีที่จะวิ่งอยู่ภายในเกาะ รถไฟฟ้าเค้าน่าร้ากอ่ะ สีสดใส ช๊อบ...ชอบ พอข้ามมาเราก็พากันลงสถานี...เอ...สถานีที่มีพี่สิงห์ตัวพ่ออ่า (Imbiah รึป่าวหว่า...ฮา) แล้วเราก็เริ่มท้องร้องกันโครกคราก แทนที่จะกินมาแต่หน้าโรงแรม เลยต้องไปใช้บริการเซเว่นแทน แต่เราไม่แคร์เรื่องกิน ขอแค่อิ่มเป็นพอ...ฮา แล้วก็เดินไปแชะกะพี่สิงห์ตัวพ่อสักหน่อย
เดินอ้อมไปเป็น Merlion walk เดินๆๆ แล้วก็เดิน ไปจนสุดจะเจอบันไดลาดยาวสลับไปมา เดินๆๆ ไป อ้าว Beach Station สถานีสุดท้ายของเกาะ ...อ่อ ทุกสถานีมันไม่ไกลกันมาก พอเดินถึงกันได้นี่เอง... โอย น่ารักไปหมดเกาะนี้ มาสิงคโปร์ ก็ชอบเกาะนี้แหละ บรรยายได้แต่คำเดียวว่า น่ารักๆๆๆเราไม่ได้เดินไปที่หาด เพราะเราไม่ค่อยชอบทะเลเท่าไหร่ แค่มองอยู่ไกลๆ ก็โอแล้ว

          อีก 15 นาทีจะ 10.00 น. ได้เวลาแห่งความบันเทิงของจริงแว้ว ไป Universal กันดีกว่า เราลงสถานี Water front แล้วก็เดินๆ ไปมาถึงทางเข้าแล้วจ้า ขอบอกว่าทุกครั้งที่เข้ามาในโลกแบบนี้จะตื่นเต้นสุดๆ เพราะเป็นพวกคลั่งโลกแฟนตาซี ดินแดนอัศจรรย์ฺ  ไปแชะกะคุณลูกโลกเค้าสักหน่อย คนเยอะมากอ่า ขนาดวันธรรมดานะเนี่ย
ถ่ายกะคุณลูกโลก
            10.00 น. เป๊ะ คนมายืนต่อแถวยาววววว และพี่หมีกังฟูแพนฯ ก็ออกมาเซฮัลโหลพวกเรานักผจญภาพยนตร์ว่าเราพร้อมจะ Ride the movie กันอ๊ะยังตัว...ประตูเปิดแล้วจ้า~~ ว้าว ทำให้เราคิดถึง Universal Florida ที่เราเคยไปเป็นกรรมกรเลยอ่า แต่ตอนนี้เรามาในฐานะลูกค้า...คือพระเจ้า 555 แต่พอเห็นคนทำงานแล้วก็ยังนึกถึงภูมิหลังตัวเอง...ฮา
 มาด่านแรกเราก็จะเจอ Wood Pecker น่ารักไม่เคยเปลี่ยนไป ออกจะน่ารัก ขี้เล่นขึ้นด้วยกว่าตอนที่เราเคยอยู่ด้วยกันที่เมกาอีก... จากนั้นพวกเราเดินตามทางในแผนที่ ถ่ายรูปตามทางไปเรื่อยๆ เจอตัวไรก็ถ่ายๆ ส่วนเครื่องเล่นเราก็ศึกษามาหมดว่ามีอะไรที่ปี๊มี้เล่นได้บ้าง... 
Hollywood Zone
New York Zone

อันแรกที่ใครๆ ต่าง Recommend Transformer 4 D คนยังไม่มาก งั้นเอาก่อนเลย...พวกเรา โห... หนุกอ่ะ เร้าใจมว้าก แค่ทางเดินไปก็ทำซะยังกะเราหลุดไปในหนัง เหมือนสไปเดอร์แมน 4 D เลยอ่ะ แต่เราชอบอันนี้มากกว่า เพราะเราชอบหุ่นยนต์มากกว่าโทบี้...
Sci-fi City

Ancient Egypt
            
แต่ตัวเรานี้ก็ทำมี้เกือบช็อค เพราะ Canopy Flyer เอ…เราจำได้ว่าตอนเราเล่นที่เมกา ไม่ทำงามไส้ขนาดนี้นะ... การแสดง Water อะไรสักอย่างก็สุดยอด ขนาดฟังไม่ค่อยจะเข้าใจก็ยังตื่นตาตื่นใจเลยนะเออ...เค้าทุ่มทุนสร้างอ่ะ 
เหงื่อแตก..-_-"

  มื้อกลางวันในนี้เราขอไปเติมพลังกันที่ Mel’s Drive เพราะจะหลบฝนด้วยแหละ กินกันโต๊ะนอกร้านบรรยายกาศดีมาก ฝนตกเปาะแปะ ลมเย็น คนก็ไม่ค่อยมี เบอร์เกอร์เค้าก็อร่อย โห...สวรรค์ชัดๆ 
     ฝนหยุดเราก็ไปต่อที่โซน Madagascar เพราะไหนๆ ก็ใส่เสื้อกันฝนแล้ว ป้ายทางเข้าบอก May be wet เครื่องเล่นนี้สุดๆ อ่ะ ทำเอาฮากันแทบตายผสมหน้าแตกกันเล็กๆ...แต่ถ้าสปอยด์แล้วไปเจอจริงจะไม่ฮา... แล้วก็เดินกลับไปต่อ  Jurassic Adventure อันนี้ปี๊ขอผ่าน เราจูงมือไปผจญภัยกะมี๊ 2 คน...อันนี้ก็ฮา โชกกันลงมาอย่างถ้วนหน้า... 
กระชากวัยจ้า 55
The Lost World
แล้วก็ไปต่อ Shrek 4 d เพราะกะจะเข้าไปหลบฝนที่โปรยลงมาอีกระลอก ปราสาทด้านนอกทำสวยมากอ่า... ตัว 4 D ก็ทำได้ดีเลยแต่ก่อนเข้าบรรยายซะน๊าน..นาน นานจนคิดว่าแค่บรรยายจบแล้วออกเลยรึป่าวหว่า...55 หลังจากอันนี้ไปก็เริ่มเล่นมั่วและฉายเดี่ยวเพราะมีแต่เครื่องเล่นหวาดเสียว
Far Far Away
 ขาแข็งกันแล้ว เราก็เดินไปนั่งพักกันโซนไซไฟซิตี้ ตอนเกือบหกโมง เพราะเราตั้งใจมารอถ่ายรูปกะ Auto robot roll out ซึ่งภาพในหัวเราคือต้องได้เจอออพติมัสหรือบีตัวเป็นๆ กลิ้งออกมาแน่ 555 รอร๊อรอ...เอ เลยหกโมงแล้วก็ยังไม่ออกมา เกือบหกครึ่ง เผอิญกวาดตาไปเห็นคนยืนถ่ายรูปเลยเข้าไปดู โห...อุตส่าห์รอตั้งครึ่งชั่วโมง นี่เองอ่ะเหรอ Auto robot ก็ที่เราถ่ายรูปไปเมื่อเช้านี่หว่า ว้า...รอเก้อซะงั้น โธ่ แต่มันจะเป็นหุ่นยักษ์กลิ้งออกมาได้ไง...นี่ก็ไม่คิด เหอๆ ผิดหวังเล็กๆ แต่ก็ต้องกลับละ ตรงทางออกยังมีดาราการ์ตูนออกมาถ่ายรูปกันก่อนสวนสนุกปิด เราก็เอาอีกสักรอบกะพี่ Wood pecker ที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครใยดี 555 ได้ทีเลยไปจูงมือบอกกลับบ้านกัน...นี่ก็รับมุก จูงมือเราบอกเรากลับผิดทาง ต้องทางนี้...โห ประทับใจอ่ะ จะพาเรากลับโพรงด้วย.. 
ต้องโบกมือลากันแล้วT^T
               ออกมาก็แวะซื้อป๊อบคอร์นที่พี่ฝากซื้อหน่อยยี่ห้อ Garlette (ลืมถ่าย..>-<) แพงหน่อยแต่อร่อยจริงไรจริง สมราคา ถ้าผ่านมาแนะนำให้ซื้อฝากคนทางบ้าน ขากลับแม่เราอยากกลับกระเช้าเลย เลยต้องสนองนี้ดหน่อย ไปที่ Imbiah station แล้วเดินขึ้นไปแล้วก็ขึ้นไป จะเจอร้านขายของที่ระลึก ที่ขายตั๋วจะอยู่ในนั้น คนละ 13 $ แถมข้าวโพด Angry bird 1 ห่อให้ไปเคี้ยวเล่น เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นกระเช้า ถามว่าวิวสวยมั้ย...เค้าไม่กล้ามอง กลัวจนท้องน้อยแป้วเลย...เอาเค้าลงเดี๋ยวนี้ ทำไมมันนานจังแค่ข้ามเกาะเองนะ...แต่ปี๊เค้าชอบมากอ่า
ทางเดินขึ้นกระเช้า รูปจะสั่นไปไหน เหอๆ
                20:00 ไปกินข้าวที่ Food Republic สมใจ เอ่อ ที่พวกเราสั่งไม่ได้อร่อยอย่างที่คิด 55 อิ่มแล้วก็ไปซื้อ Flipflop ที่น้องมีโองการมา รุ่นเก่าก็ถูกดี แต่เฉลี่ยๆ ก็ถูกกว่าที่ไทยหน่อย กลับถึงโรงแรมก็สามทุ่มกว่าๆ สลบเหมือดกันหมด 


To be continue...     


Monday, January 21, 2013

Yumeiro Patisserie


Review : เส้นทางฝันของสาวน้อยขนมหวาน ((^o^))  (Part I)
Credit Pic: Natsumi Matsumoto and Yumeiro Patisserie’s staff 
            ป.ล.อาจสปอย์ ถ้ากำลังดูและไม่อยากเสียอรรถรสก่อนดู อย่าอ่านต่อเด็ดขาดจ้า 
กำลังนั่งดู Yumeiro Patisserie อยู่ ก็บันดาลปิ๊งอะไรขึ้นมาบางอย่าง เห็นรูปของหวานแต่ละชนิดที่ทำออกมาในเรื่องแล้วก็อยากกินๆๆๆ เลยแค็บออกมาเผื่อแผ่ให้ใครต่อใครน้ำลายไหล...
            เอ่อ ก็เป็นการ์ตูนทำขนมที่ดูได้เรื่อยๆ แต่ถ้าชอบหนุ่มหล่อๆ ก็จะไม่เรื่อยจะเป็นเริงร่ามากกว่า..อ๊า~ง แต่ก็ได้ลุ้นตอนมีการแข่งขัน ไม่ได้ลุ้นว่าทีมนางเอกจะชนะรึเปล่า เพราะรู้ๆ อยู่ แต่ลุ้นว่าจะทำอะไรออกมาน้า (^ ~ ^) ใครชอบกินเค้กรับรองไม่ผิดหวัง มีแต่เค้กสีสดๆ ถึงบางแบบมันจะดูโอเว่อร์ไปบ้าง (^.^)
           ประเดิมด้วยเค้กจากเทศกาลขนมหวานกันเลย เห็นแล้วน้ำลายไหล 

             
 เค้กที่ทำให้นางเอกได้มาเจ๊อะอาจารย์อองรี 


จนนึกได้ว่าตัวเองเคยฝันอยากเป็นปาติซิแอร์นี่นา






และจัดมาเลยคร่า...เค้กของอาจารย์อองรี (Henri Lucas) ชื่อเค้กคือ 初恋 (รักแรก) เป็นชื่อที่ไพเราะเพราะพริ้งเจิดจรัสเห็นปุ๊บ บันดาลให้เกิดรักแรกกะอาจารย์เลยอ่า อ๊า~(^///^) เป็นเค้กมูสสตรอเบอร์รี่





ต่อด้วยเค้กเวทมนตร์ของคุณย่านางเอก 
ทาร์ตสตรอเบอร์รี่
(เค้าไม่ซูมอ่า...)
อันนี้ Crepe cake เค้กก้อนแรกที่อิจิโกะทำสำเร็จ


ช็อคโกแลตแกะสลักฝีมือคาชิโนะ
(งามแต๊...พ่อคู๊ณ~ทั้งหล่อ ทั้งประณีต)
เอแคลร์ที่ฮานาบุสะมาช่วยอิจิโกะทำ
(นี่ก็หล่อมีเมตตา)
เค้กโรลชาเขียวของอันโด
(อยากกินอ่า...) (^o^)
เค้กช็อคโกแลตของคาชิโนะ
(ชิ้นนี้ทำอย่างชิว)
   
เค้กมูสชาเขียวถั่วแดงของอันโด
(น่ากินที่สุด)

นี่ทำส่งในชั่วโมงเรียนนะนี่
Opera Cake ของคาชิโนะนี่ก็ชั่วโมงเรียน-3-



Raspberry choco cake ของฮานาบุสะ
(ดอกใหญ่ไปหน่อย)
Fruits roll cake ของอิจิโกะ
ออกจะธรรมดาหน่อยแต่ก็สร้างสรรค์
ชื่อเค้ก 天使と悪魔 (เทวดากะซาตาน)
เพราะเอาไวท์กะดาร์คมาโรลรวมกัน

โกโก้ร้อน ที่คาชิโนะทำให้อิจิโกะตอนล้า
หนุ่มซึน ปากร้ายใจงาม..
มันจะธรรมดามาก ถ้าไม่มีผลไม้น่ารักๆ วางข้างจาน
และจะยิ่งธรรมดา ถ้าไม่ใช่ของคาชิโนะ..*o*





เค้กต้อนรับอิจิโกะกับวานิลลา
ที่เจ้าชายขนมหวานช่วยกันทำ
มาคู่กับ 求肥 (กิวฮิ) เป็นขนมญี่ปุ่นทำจาก
แป้งโมจิชนิดหนึ่ง (อ่ะมั้ง) ของอันโดมีแต่ของน่ากินๆ


                   เค้กวันเกิดต่างๆ ที่เหล่านักเรียนโรงเรียนเซนต์มารีต้องทำขึ้นให้เป็นของขวัญในวันเกิดเด็กอนุบาลแต่ละคน
Princess Cake
さくらんぼケーキ (เค้กเชอร์รี่)
ของกลุ่มคุณรูมิ เพื่อนสนิทแสนดีของอิจิโก


Hero cake
เค้กที่่พวกอิจิโกะถูกขโมยไอเดียไป >-<



เค้กที่อิจิโกะคิดขึ้นมาใหม่ชื่อ
「魔女の家のリンゴちゃん」
ริงโกะจังในบ้านแม่มดใจร้าย



                   บรรดาเค้กที่เรียงรายอยู่ในร้าน Salon de Marie ในสถาบัน Saint Marie (เง้อ... อยากกิน)




Souffle ของประธานเทนโนจิ
ขนมขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของร้าน
นี่ก็ผลงานของประธานเทนโนจิ


Mont Blanc
Pudding ของยัยคุณหนูไฮโซ
(รุ่นปรับปรุง หลังจากโดนคาชิโนะด่า)

เค้กจากร้านของคุณย่า
ที่คุณลุงอิจิโกะสืบทอดกิจการต่อ
ทาร์ตสตรอเบอร์รี่ที่อิจิโกะและนัตสึเมะ
มาช่วยคุณลุงทำ แต่รสชาติกลับไม่เหมือนที่คุณย่าทำ

Madeleine แห่งมิตรภาพ
ของเจ้าชายขนมหวาน
Croquembouche
Croquembouche แบบเต็มๆ

                        พวกอิจิโกะต้องทำเค้กจำหน่ายในเทศกาลวันคริสต์มาส และนำรายได้ไปช่วยการกุศล

เค้กของอันโด
(เลิศหรู...)
เค้กของฮานาบุสะ
(ดูดี...)
เค้กของคาชิโนะ
(มีระดับ...)
เค้กของอิจิโกะ
(เอ่อ...-_-")
                      
                        มายลขนมหวานแห่งอาณาจักรขนมหวานกันบ้าง ...น่ากินไม่แพ้กัน


อันนี้อะไร...เค้าำจำไม่ได้
               ในที่สุดพวกอิจิโกะก็ได้ผ่านเข้ามาแข่งเค้ก Grand Prix ได้สำเร็จ ทีมแรกที่เจอเป็นทีมรุ่นพี่ที่แต่ละคนมีเค้กวางขายในร้านซาลอน เดอ มารีักันทั้งนั้น รอบแรกนี้เป็นการแข่งทำเค้กปอนด์
                                                            ทีมรุ่นพี่
Choco pound cake
Amikawa-senpai
Coffee marble pound
Shima-senpai
เค้กปอนด์เกาลัด
Ichimatsu-senpai
เค้กรวมถั่ว
Yokoshima-senpai





ของทีมอิจิมัตสึพอเอามาจัดวางรวมกันจะเป็นแบบนี้





                                                  


                                                            ทีมอิจิโกะ
White Choco pound cake
ของคาชิโนะ
紅茶パウンドケーキ(เค้กชาฝรั่ง)
ของอันโด
Peach pound cake
ของอิจิโกะ

Rose pound cake
ของฮานาบุสะ




เค้กทีมอิจิโกะแต่ละชิ้นก็ดูธรรมด๊า...ธรรมดา แต่พอให้ฮานาบุสะจัดแจงตกแต่งแล้ว ก็จะออกมาหรูเลิศดอกใหญ่อลังการเช่นนี้ (เลิศอ่ะ) อีกทีมดับสนิท...





                   
    
  ศึกเค้กชี้ชะตาฮายามิว่าจะใช้ชีวิตนักเรียนในเซนต์มารีต่อไปหรือไม่!!
Lemon cake
ของฮายามิ
Orange cake
ของอิจิโกะ
นี่ก็เค้กโอเปร่าชี้ชะตาชีวิตคาชิโนะ

      ถึงวันวาเลนไทน์ต่างคนต่างก็ทำช็อกโกแลตให้หนุ่มๆ กัน
เค้กแห่งรักของมิยะ
ช็อกโกแลตวาเลนไทน์
ของคุณรูมิ
                                              ช็อกโกแลตที่อิจิโกะทำแข่งกับมิยะ
อันนี้ช็อกโกอะไรไม่รู้
แต่ให้อันโด
ช็อกโกชากุหลาบ
ให้ฮานาบุสะกิน

Black pepper choco
สำหรับคาชิโนะโดยเฉพาะ














To be continue...